บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

“ไอน์สไตน์” การย่นระยะทาง[02]

การย่นระยะทางของเกจิอาจารย์

โดยปกติ บุคคลที่เราคิดว่า สามารถย่นระยะทางได้นั้น ควรจะเป็นระดับพระอรหันต์ แต่ในปัจจุบันนี้ เราไม่ทราบว่า พระอรหันต์ที่สามารถย่นระยะทางมีอยู่หรือไม่

พระอรหันต์ที่นับถือกันในปัจจุบันนี้ ก็เห็นเดินทางกันโดยรถยนต์เป็นส่วนใหญ่ เลยไม่รู้ว่าท่านย่นระยะทางได้หรือไม่

เท่าที่ได้รับฟังในปัจจุบันนี้ จะได้รับฟังแต่เพียงว่า มีเกจิอาจารย์ท่านนั้น ท่านนี้ สามารถย่นระยะทางได้ เท่านั้น

ดังนั้น ก็จะยกตัวอย่างสัก 2-3 ตัวอย่างจากการย่นระยะทางของเกจิอาจารย์  ดังนี้

ตัวอย่างที่ 1  การย่นระยะทางของหลวงพ่อกลั่น

หลวงพ่อกลั่นท่านสังกัดวัดพระญาติการาม จังหวัดอยุธยา ครั้งหนึ่งเจ้าภาพที่อยู่บ้านม้านิมนต์ท่านไปเป็นพระคู่สวด โดยนิมนต์พระญาณไตรโลก (ฉาย คงฺคสุวณฺโณ) เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิง และเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นพระอุปัชฌาย์

การเดินทางสมัยนั้นต้องใช้รถไฟเป็นหลัก สถานีบ้านม้านี่ห่างจากสถานีรถไฟพระนครศรีอยุธยาไปเพียงสถานีเดียว 

สถานีบ้านม้านี่แหละทำให้เกิดสำนวนที่ว่า บ้านม้ากับภาชีก็คือกัน

ที่อยุธยานี่มีทั้งสถานีบ้านม้าที่จะเล่าในเรื่องนี้ กับสถานีชุมทางบ้านภาชี ซึ่งห่างกันพอสมควร  สถานีชุมทางบ้านภาชีนี่ รถไฟที่จะไปสายอีสานจะมาแยกตรงนี้

มีเรื่องเล่ากันว่า มีคนอีสานจะไปสถานีบ้านภาชี  คนนี้แกเก่งภาษาพอตัวเหมือนกัน  แต่ไม่ได้เก่งเรื่องอื่นๆ ด้วย  พอรถไฟวิ่งมาถึงสถานีบ้านม้า ก็หลุดปากออกมาว่า บ้านม้ากับภาชีก็คือกันแล้วก็ชวนเพื่อนๆ ลงที่สถานีบ้านม้ากันหมด

แต่ถึงแม้ว่า "ภาชี" จะแปลว่า "ม้า"  แต่มันก็เป็นคนละสถานีกัน

สรุปว่า ทั้งผู้ที่เก่งภาษากับเพื่อนๆ ก็ต้องเดินจนเหงื่อตก พร้อมถูกพรรคพวกด่าไปอีกนานกว่าจะถึงสถานีบ้านภาชี

กลับมาเข้าเรื่อง
คณะของพระญาณไตรโลก (ฉาย) รอหลวงพ่อกลั่นที่สถานีพระนครศรี อยุธยาจนรถไฟออกก็ยังไม่เห็นหลวงพ่อกลั่น  เมื่อรถไฟแล่นออกจากสถานีแล้ว จึงเห็นหลวงพ่อกลั่นเดินดุ่มๆ อยู่แต่ไกล

ในเรื่องเล่าไม่ได้บอกว่า เดินอยู่เหนือสถานีรถไฟหรือใต้สถานีรถไฟ คือ ยังเดินมาไม่ถึง หรือไม่สนรถไฟคือ ท่านจะเดินไปทำนองนั้น

เมื่อพระญาณไตรโลก (ฉาย) เห็นเช่นนั้น ก็กล่าวขึ้นว่า "เออ...อาจารย์กลั่น มั่วงกๆ เงิ่นๆ อยู่นั่นแหละ วันนี้ไม่ต้องฉันเพลกันล่ะ"

แต่เมื่อพระญาณไตรโลก (ฉาย) มาถึงวัดที่จัดงานบวช ก็เห็นหลวงพ่อกลั่นนั่งเอกเขนกเหงื่อชุ่มกายอยู่บนบ้านเรียบร้อยแล้ว  คือ คนเดินมาน่าจะถึงช้ากว่าคนที่มารถไฟ แต่ปรากฏว่า คนเดินมา มาถึงก่อน

สอบถามได้ความว่า หลวงพ่อกลั่นเดินทางมาถึงได้สักครู่หนึ่งแล้ว

พระญาณไตรโลก (ฉาย) เห็นดังนั้น  จึงรู้ว่า หลวงพ่อกลั่นสามารถย่นระยะทางได้ มีบุญบารมีมากว่าตัวเอง จึงได้อาราธนาให้หลวงพ่อกลั่นนั่งเป็นพระอุปัชฌาย์แทนท่าน  ส่วนท่านก็ลดตำแหน่งมานั่งเป็นพระคู่สวด
เรื่องนี้ถ้าให้พุทธวิชาการลงความเห็น  ท่านก็คงว่า มีคนรับหลวงพ่อกลั่นมา อาจจะเป็นขี่ม้า ขี่ช้าง ฯลฯ  ท่านก็จะเดามั่วตามหลักของท่านไป

แต่ท่านมีการศึกษาสูง  การเดามั่วของท่านจึงได้รับการยอมรับอยู่ในยุคของท่าน  แต่สมัยนี้ คนไม่เชื่อท่านแล้ว ดังที่จะพิสูจน์ต่อไปข้างหน้า

ตัวอย่างที่ 2  การย่นระยะทางของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท

เรื่อง นี้ก็ยังคงเกี่ยวข้องกับหลวงพ่อกลั่น ซึ่งเรื่องนี้ต้องเรียกหลวงปู่กลั่น กล่าวคือ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท หลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุญนาค อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ และหลวงปู่กลั่น วัดพระญาติการาม จังหวัดอยุธยา ทั้ง 3 รูปท่านเป็นเพื่อนกัน ไปมาหาสู่กันเสมอๆ
 
แต่เหตุการณ์ที่จะเล่าต่อไปนี้ มีตัวละครแค่หลวงปู่ศุขกับหลวงปู่สี

กล่าวคือ ครั้งหนึ่งหลวงปู่สีไปเยี่ยมหลวงปู่ศุขที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า และอยู่สนทนาธรรมกัน

เมื่อเยี่ยมเยียนกันพอสมควรแล้ว หลวงปู่สีก็ดำริว่าจะออกเดินธุดงค์ต่อไป แต่หลวงปู่ศุขก็ขอร้องให้หลวงปู่สีรออยู่ที่วัดก่อน

เช้าวันนั้นหลวงปู่ศุขออกไปบิณฑบาตตามปกติ  ฝ่ายหลวงปู่สี พอเห็นหลวงปู่ศุขไปแล้วท่านก็เก็บของของท่านที่จำเป็น แล้วออกเดินทางไป

เมื่อหลวงปู่ศุขกลับจากบิณฑบาต ทราบจากพระในวัดว่าหลวงปู่สีท่านไปแล้ว หลวงปู่ศุขจึงให้พระเณรฉันข้าวก่อน เดี๋ยวจะกลับมาฉันด้วย

ต่อจากนั้นท่านก็เข้ากุฏิ นำพระคัมภีร์ 3 เล่ม ตามไปให้หลวงปู่สี  ปรากฏว่าพระอาจารย์ทั้งสองรูปมาพบกันที่ตาคลี

จากนั้นหลวงปู่ศุขท่านก็เดินทางกลับวัดที่ชัยนาท ไปฉันอาหารร่วมรับพระเณรจนเสร็จ

ระยะทางจากวัดปากคลองมะขามเฒ่าถึงตาคลีนี่ประมาณ 40-50 กิโลเมตร ถ้าหลวงปู่ทั้ง 2 รูปย่นระยะทางไม่ได้  ท่านก็ไม่สามารถทำเวลาได้ขนาดนั้น  และหลวงปู่ศุขก็คงไม่ได้ฉันเพลทั้ง 2 วันเลยก็อาจเป็นได้

โดยสรุป หลวงปู่กลั่น วัดพระญาติ จังหวัดอยุธยา หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท และหลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุญนาค อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ สามารถย่นระยะทางได้ทั้ง 3 รูป

การย่นระยะทางของพระพุทธเจ้า
จากหัวข้อที่ผ่านมา ขนาดพระภิกษุในสมัยต้นๆ กรุงรัตนโกสินทร์ยังสามารถย่นระยะทางได้  ดังนั้น พระพุทธเจ้าก็ต้องย่นระยะทางได้เช่นเดียวกัน  แต่ไม่มีการบันทึกไว้อย่างชัดเจนเท่านั้น

แต่มีผู้คนผู้ช่างสังเกตจะเห็นว่า ในการเผยแพร่ศาสนาของพระพุทธเจ้านั้น น่าจะมีการบันทึกผิด เพราะ แต่ละแคว้นที่พระพุทธเจ้าไปเทศนานั้น มันห่างกันมาก ไม่มีทางที่จะเดินทางได้ภายในวันเดียว


แคว้นที่พระพุทธเจ้าเผยแพร่ศาสนาอยู่ก็มีดังนี้ แคว้นโกลิยะ แคว้นสักกะ แคว้นมัลละ แคว้นวัชชี แคว้นมคธ แคว้นกาสี แคว้นวังสะ แคว้นโกศล เป็นต้น

เมื่ออ่านบทความชิ้นนี้จบแล้ว ผู้อ่านก็คงจะมีแนวคิดใหม่ขึ้นว่า คนที่ไม่เชื่อว่าพระพุทธเจ้าย่นระยะทางได้ อาจจะเข้าใจผิดก็ได้ เพราะ การย่นระยะทางมันทำกันได้จริงๆ และสามารถพิสูจน์ได้ด้วยทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์เสียด้วย
..........................................................................................





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น